Display mode (Doesn't show in master page preview)
Skip Ribbon Commands
Skip to main content
Financial Planning
เทคนิคการกู้ซื้อบ้าน สไตล์เจ้าของกิจการ

“เดินบัญชีอย่างสม่ำเสมอตามการค้าขายที่เกิดขึ้นจริง เพื่อสะท้อนรายได้และรายจ่ายของกิจการ” – K-Expert

  “เวลาเป็นเงินเป็นทอง” คำพูดนี้น่าจะเหมาะกับคนที่เป็นเจ้าของกิจการค่ะ เพราะวันไหนหยุด หรือปิดร้าน วันนั้นก็จะไม่มีรายได้เข้ามา และสำหรับกิจการเจ้าของคนเดียวที่ต้องทำทุกอย่างเองหมด ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของมาขาย เปิด ปิดร้าน ทำให้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการหารายได้ จนบางครั้งเผลอหรือลืมที่จะเก็บเอกสารทางการค้าเอาไว้ หรือไม่มีเวลาพอที่จะนำเงินไปเข้าบัญชีธนาคาร สาเหตุเหล่านี้ทำให้เจ้าของกิจการหลายรายประสบปัญหาในการกู้ซื้อบ้าน เนื่องจากเอกสารต่างๆ ไม่พร้อม แล้วจะทำอย่างไรให้พร้อมยื่นกู้ K-Expert มีคำแนะนำสำหรับเจ้าของกิจการที่กำลังมีแผนยื่นกู้ซื้อบ้านดังนี้ค่ะ

บอกให้ได้ว่ากิจการทำอะไร

  เอกสารสำคัญที่เจ้าของกิจการจะต้องเตรียมให้กับธนาคารสำหรับการยื่นกู้เพื่อให้ธนาคารทราบว่าประกอบกิจการอะไรนั้น ได้แก่

ทะเบียนการค้าหรือทะเบียนพาณิชย์

    • ของกิจการที่เป็นบุคคลธรรมดา ซึ่งรายละเอียดในทะเบียนการค้าจะระบุว่ากิจการที่ทำอยู่นั้นคืออะไรและวันที่จดทะเบียนจะสะท้อนให้เห็นว่าประกอบกิจการมานานแค่ไหนสำหรับเจ้าของกิจการรายใหม่ที่กำลังจะมีแผนจดทะเบียนการค้าหรือทะเบียนพาณิชย์ก็สามารถยื่นเอกสารขอจดทะเบียนได้ที่สำนักงานเขต หรือองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) หรือเทศบาล

สัญญาเช่า

    • เช่น เปิดร้านค้าในห้างสรรพสินค้า เช่าร้านค้าในตึกแถว เอกสารสัญญาเช่าจะช่วยบอกได้ว่ากิจการตั้งอยู่ที่ใด ทำมาแล้วนานแค่ไหน โดยอาจใช้สัญญาเช่าที่ทำไว้ในอดีตควบคู่กัน

บอกให้ได้ว่ากิจการมีรายได้เท่าไร

    สิ่งสำคัญที่จะสะท้อนรายได้ของกิจการบุคคลธรรมดานั่นก็คือ รายการเดินบัญชีย้อนหลัง (Statement) ซึ่งนอกจากจะช่วยประเมินให้เห็นว่ากิจการมีรายได้เท่าไรแล้ว ยังสะท้อนได้ว่ากิจการประกอบการค้าเป็นอย่างไร เช่น ได้รับเงินทุกวันอย่างการขายของชำ ขายอาหาร หรือมีรายได้เป็นรายสัปดาห์ เช่น โรงเรียนสอนพิเศษ โดยการเดินบัญชีที่ดีควรฝากเงินหรือถอนเงินตามรายได้หรือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง และไม่ตกแต่งบัญชีค่ะ โดยธนาคารจะพิจารณารายการเดินบัญชีย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน
    นอกจากรายการเดินบัญชีย้อนหลังแล้ว หากกิจการมีเอกสารเพิ่มเติมที่ช่วยสะท้อนรายได้ของกิจการก็ควรยื่นประกอบการพิจารณาสินเชื่อด้วยค่ะ ซึ่งได้แก่

  • บิลการค้า สำหรับกิจการที่ทำการค้าแล้วมีการออกบิลหรือใบเสร็จให้กับลูกค้า หรือใบเสร็จที่ได้จากการซื้อสินค้ามาขาย
  • เอกสารการเสียภาษี เช่น ภพ. 30 สำหรับกิจการที่มีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

    เจ้าของกิจการถือว่าเป็นอาชีพที่สร้างรายได้มากมายอย่างไม่จำกัด แต่ในการกู้เงินหากไม่สามารถสะท้อนให้เห็นได้ว่ากิจการมีรายได้เป็นอย่างไร หรือไม่ชัดเจนว่าประกอบกิจการอะไร โอกาสในการได้รับอนุมัติเงินกู้ก็อาจจะเป็นไปได้ยากค่ะ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษาวางแผนเพิ่มเติม สามารถปรึกษากับ K-Expert ธนาคารกสิกรไทย ได้ที่ K-Expert@kasikornbank.com





AUTHOR


ฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษา
ลูกค้าบุคคล (K-Expert)

RELATED STORY